วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ไขมันชนิดที่ดี คืออะไร เอชดีแอล คอเลสเตอรอล ความดันโลหิตสูง และน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)



ไขมันชนิดที่ดี  คืออะไร 

      ไขมันชนิดที่ดี หรือ เอชดีแอล คอเลสเตอรรอล หรือในภาษาทางแพทย์ เรียกว่า ไฮเดนซิตี้ไลโปโปรตีนคอลเลสเตอรอล (High Density Lipoprotein Cholesterol: HDL-C) เป็นคอเลสเตอรอลที่ดีในเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ หากในเลือดมีไขมันชนิดที่ดี (HDL-C) สูง จะช่วยพาเอาแอลดีแอล (LDL-C) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีไปขจัดออกทางน้ำดีที่ตับ โดยระดับเอชดีแอล (LDL-C) ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 มก./ดล. จะลดความเสี่ยงหัวใจวายได้ 2-4 เปอร์เซ็นต์ และอัตราส่วนของคอเลสเตอรอลรวม : เอชดีแอล (Total chol / HDL ) ใช้เป็นตัวบ่งชี้การเกิดโรคหัวใจหลอดเลือดได้ดีกว่าการดูค่าแอลดีแอลเพียงตัวเดียว 



ไขมันชนิดที่ดี ช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อย่างไร

     นักวิจัยยังไม่แน่ใจในกลไกนัก แต่การวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่าระดับเอชดีแอลที่สูงจะช่วยป้องกันการเกิดพลัคในผนังหลอดเลือดแดง (ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงแข็ง) การวิจัยในห้องปฏิบัติการชี้แนะว่า เอชดีแอลช่วยขจัดคอเลสเตอรอลจากเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อผิดปกติหรือที่ฉีกขาดในหลอดเลือดแดง งานวิจัยล่าสุดเปิดเผยว่าเอชดีแอลมีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์และต้านการอักเสบ จึงช่วยยับยั้งการเกิดหลอดเลือดแดงแข็ง


    การดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะไวน์แดงในปริมาณเหมาะสมร่วมกับมื้ออาหาร จะช่วยเพิ่มระดับเอชดีแอลคอเลสเตอรอล และช่วยพาคอเลสเตอรอลออกจากเซลล์ในผนังหลอดเลือดแดงได้ดีขึ้น แต่ในกรณีที่ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง ไม่ควรดื่ม เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงยิ่งขึ้น


คุณสามารถเพิ่มเอชดีแอลคอเลสเตอรอลได้ด้วย การออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างน้อยวันละ 30 นาที หยุดสูบบุหรี่และลดน้ำหนัก ซึ่งความอ้วนเป็นสาเหตุหนึ่งของการลดเอชดีแอลคอเลสเตอรอล
 

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้

ผลิตภัณฑ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)  กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ปริมาณและราคา 1 กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,260 บาท

สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่   http://ricebransaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

    คุณ สายบัว  บุญหมื่น   โทร. 088 415 3926

         ID Line : bua300908

            อีเมล์ : sboonmuen@gmail.com     


ความดันโลหิตสูง เพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ได้อย่างไร ? และน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)

การเพิ่มระดับไขมันดี  (HDL) ด้วยน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส
    ไขมันที่ดี (High Density Lipoprotein : HDL) เป็นไขมันที่มีความหนาแน่นสูง ช่วยป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ และไขมันเลว (LDL) สะสมในหลอดเลือดแดง หากขาด HDL ในเลือด ก็จะทำให้เป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้ 

    เพิ่มระดับไขมันดี  (HDL) ได้อย่างไร ?     
     
    1. การออกกำลังกายที่มีการใช้แรงงานปานกลางหรือแอโรบิก (Aerobic) เป้นการออกกำลังกายที่ทำให้เหนื่อยจนเหงื่อออก และออกกำลังต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป เช่น เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ เดินเร็ว วิ่งจ๊อกกิ้ง เป็นต้น ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือทุกวันถ้าเป็นไปได้     



    2. ควบคุมอาหาร การควบคุมอาหารที่มีแคลอรี่สูงเกินความจำเป็น ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงาน เป็นการช่วยเพิ่ม HDLได้ และควรเลิกสูบบุหรี่เนื่องจากบุหรี่จะทำให้ HDL ต่ำลง


    
    3. หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ เนื่องจากไขมันทรานส์จะไปเพิ่ม LDL (ไขมันไม่ดี) และลด HDL ลง อาหารที่มีไขมันทรานส์มาก ได้แก่ เนยเทียม มาการีน ครีมเทียมต่างๆ ขนมกรุบกรอบต่างๆ เป็นต้น 
 
  
    4. เพิ่มอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่นพืชผักต่างๆ (Insoluble) และ อาหารจำพวกธัญพืชต่างๆ (Soluble) หรืออาหารจำพวกเมล็ดธัญพืชไม่ขัดสี (Whole Grain) เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต โฮลวีท นักวิจัยพบว่าใยอาหารจำพวกนี้สามารถลด LDL ไตรกลีเซอไรด์ และสามารถเพิ่มไขมัน HDL ได้      
   

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส ลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (ไขมันเลว หรือ Low Density Lipoprotein : LDL



น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้




ผลิตภัณฑ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plusกำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้



ปริมาณและราคา กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,260 บาท
อย. เลขที่ 12-1-13353-1-0083

สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่   http://ricebransaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

          คุณ สายบัว  บุญหมื่น  โทร. 088 415 3926
             ID Line : bua300908

                 อีเมล์:  sboonmuen@gmail.com

โรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ความดันโลหิตสูง น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)

โรคอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม
      โรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคสมองเสื่อมชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะมีการเสื่อมของเซลล์สมองทุกส่วนเป็นแล้วไม่มีวันหาย ผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่สามารถแยกถูกผิด มีปัญหาในเรื่องการใช้ภาษา การประสานงานของกล้ามเนื้อเสียไป ความจำเสื่อม ในระยะท้ายของโรคจะสูญเสียความจำทั้งหมด  ในประเทศไทย มีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 2-4 % ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากขึ้น โดยจะพบเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 5 ปี หลังอายุ 60 ปี ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา ประมาณว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคนี้กว่า 3-4 ล้านคน และจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก เนื่องจากประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น 




      โรคอัลไซเมอร์จะไม่สามารถป้องกัน และรักษาไม่หาย ญาติสามารถช่วยผู้ป่วย โดยการศึกษาโรคนี้และช่วยผู้ป่วยอย่างถูกวิธี


การดูแลผู้ป่วยในระยะแรกของโรค
1. บอกการวินิจฉัยให้แก่ผู้ป่วย เพื่อที่แพทย์จะสามารถให้การรักษาได้ตั้งแต่เริ่มเป็น แพทย์ ผู้ที่ดูแล และผู้ป่วยจะต้องมาปรึกษาว่าจะเกิดภาวะอะไรกับผู้ป่วย เช่น ความจำ อารมณ์ เป็นต้น
2. อารมณ์ เนื่องจากผู้ป่วยจะมีอารมณ์ที่ผันผวนอย่างรวดเร็ว อาจจะกร้าวและโกรธจัด พฤติกรรมนี้เกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง และเกิดจากที่ผู้ป่วยสูญเสียความรู้และไม่สามารถเข้าใจสิ่งต่างๆรอบตัว และไม่สามารถใช้คำพูดได้อย่างเหมาะสมจึงทำให้ผู้ป่วยมีอารมณ์ที่แปรปรวน ผู้ให้การดูแลต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้เรียบง่าย ให้เงียบ เวลาพูดกับผู้ป่วยต้องช้าๆ และให้ชัดเจน ไม่ให้ทางเลือกกับผู้ป่วยมากไปเนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถตัดสินใจได้ถูกต้อง เช่นให้ผู้ป่วยเลือกเสื้อผ้าเอง ผู้ป่วยไม่สามารถเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากันซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโกรธ เมื่อผู้ป่วยโกรธ หรือตะโกนอาจจะหาของว่างให้รับประทาน หรือขับรถให้ผู้ป่วยเที่ยวซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสงบ ผู้ให้การบริการจะต้องมีอารมณ์ที่สงบ อารมณ์ไม่ฉุนเฉียว



3. ความสะอาด ผู้ป่วยมักจะไม่อยากอาบน้ำ ผู้ป่วยอาจจะเลือกเสื้อผ้าไม่เหมาะสมผู้ดูแลอย่าโกรธ ต้องแสดงความเห็นใจ
4. การขับรถ เมื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ห้ามขับรถ ต้องป้องกันผู้ป่วยออกนอกบ้านโดยการ lock ประตูและอาจจะติดสัญญาณเตือนเมื่อผู้ป่วยออกนอกบ้านพยายามให้ผู้ป่วยออกกำลัง เช่นเดินครั้งละ 30 นาทีวันละ 3 ครั้งจะทำให้ผู้ป่วยเพลียและหลับง่าย
5. การนอนหลับ มีคำแนะนำให้เปิดไฟให้สว่างในเวลากลางวัน จะทำให้ผู้ป่วยหลับในเวลากลางคืน


การดูแลผู้ป่วยในระยะท้ายของโรค
1. ผู้ป่วยจะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ หากมีอาการดังกล่าวจะต้องตรวจดูว่ามีโรคติดเชื้อหรือไม่ ผู้ดูแลสามารถกะเวลาปัสสาวะได้ โดยการกำหนดเวลา และปริมาณน้ำและอาหารที่ให้ และสามารถพาผู้ป่วยไปห้องน้ำได้ทัน
2. การเคลื่อนไหว ระยะท้ายผู้ป่วยจะจำไม่ได้ว่าเคลื่อนไหวอย่างไร จะนอนหรือนั่งรถเข็น ผู้ดูแลต้องคอยพลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง ทำกายภาพบำบัดเพื่อแก้ข้อติด
3. การรับประทานอาหาร ผู้ป่วยจะกลืนอาหารไม่ได้ต้องให้อาหารทางสายยาง ผู้ดูแลต้องระวังสำลักอาหาร




อาการเด่นของโรคอัลไซเมอร์ 
         ความจำเสื่อม หรือ หลงลืม เรื่องที่ลืมก็จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ลืมปิดเตารีด ลืมกินยา  หรือใครมาพบวันนี้ ลืมชื่อคน ลืมของ หาของใช้ส่วนตัวไม่พบ ชอบพูดซ้ำ ถามคำถามซ้ำ เพราะจำคำตอบไม่ได้ มีปัญหาเรื่องการพูดและการใช้ภาษา คือจะคิดคำศัพท์บางคำไม่ออก ใช้คำใกล้เคียงแทน สติปัญญาความเฉลียวฉลาดลดลง ทักษะต่างๆ จะเริ่มสูญไป อารมณ์หงุดหงิด และอาจท้อแท้ 
         อาการจะเริ่มเป็นตอนอายุ 65 ปี แต่บางรายเป็นเร็วกว่านั้นอาจจะเริ่มตอนอายุ 40 ปีอาการเริ่มเป็นใหม่ๆจะมีอาการขี้ลืม และสูญเสียสมาธิ ซึ่งอาการแรกๆอาจจะวินิจฉัยยากเพราะอาการนี้ก็เป็นกับผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ การดำเนินโรคจะค่อยเป็นค่อยไป และทรุดลงในช่วงระยะ 1-3 ปี มีปัญหาเรื่องวันเวลาสถานที่ และอาจหลงทางกลับบ้านไม่ถูก ลืมชื่อญาติสนิท หวาดระแวง สับสน โดยเฉพาะกลางคืนอาจไม่นอนทั้งคืน จะออกนอกบ้าน และมีพฤติกรรมก้าวร้าว บางคนก็กลับเปลี่ยนไป เป็นไม่สนใจสิ่งแวดล้อม งดงานอดิเรกที่เคยทำ เช่น เก็บกวาดต้นไม้ หรือดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนหนึ่งเพราะดูและอ่านไม่ค่อยเข้าใจ คิดคำนวณไม่ได้ ใช้จ่ายทอนเงินไม่ถูก เมื่อเวลาผ่านไปอีก 2-3 ปี อาการยิ่งทรุดหนัก ความจำเลวลงมาก จำญาติไม่ได้ เคลื่อนไหวช้าลง ไม่ค่อยยอมเดิน หรือเดินก็เหมือนก้าวขาไม่ออก ลังเล ทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง เช่นอาบน้ำ แปรงฟัน รับประทานอาหารไม่ได้ พูดน้อยลง ไม่เป็นประโยค ที่สุดก็ไม่พูดเลย กลั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่ได้ ต้องมีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลา 2-10 ปี โดยเฉลี่ย 10 ปี ด้วยโรคแทรก เช่น ติดเชื้อจากปอดบวม หรือแผลกดทับ


สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ 
1. จากความผิดปกติในเนื้อสมองจะพบลักษณะที่สำคัญสองอย่างคือ กลุ่มใยประสาทที่พันกัน (Neurofibrillary Tangles) ทำให้สารอาหารไม่สามารถไปเลี้ยงสมอง และมีสาร Beta Amyloid ในสมอง การที่สมองมีคราบ Beta Amyloid หุ้มทำระดับ acetylcholine สมองลดลงสาร acetylcholine จะมีส่วนสำคัญในเรื่องการเรียนรู้และความจำ
2. การอักเสบ (inflammatory) สาร amyloid เมื่อสลายจะให้สารอนุมูลอิสระออกมา จะทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์สมอง
3. กรรมพันธุ์ โรค Alzheimer ที่เกิด late onset จะมีการเพิ่มของ gene ที่ควบคุมการสร้าง apolipoprotein E4 (ApoE 4) ส่วนที่เกิด early onset จะมีการเปลี่ยนแปลงของ gene presenilin-1 (PS1) และ presenelin-2 (PS2)

     โรคอัลไซเมอร์  แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะเริ่มแรก ผู้ป่วยจะรับรู้ว่าขี้ลืม ลืมปิดเตารีด ลืมปิดประตู ลืมชื่อคน ลืมรับประทานยา ต้องให้คนช่วยเขียนรายการที่จะทำ
2. ระยะที่สอง ผู้ป่วยจะสูญเสียความจำโดยเฉพาะความจำที่เพิ่งเกิดใหม่ๆ โดยอาจจะจำเรื่องราวในอดีต เริ่มใช้คำพูดไม่ถูกต้อง อารมณ์จะผันผวน
3. ระยะที่สาม ผู้ป่วยจะสับสน ไม่รู้วันรู้เดือน บางรายมีอาการหลงผิด หรือเกิดภาพหลอน บางรายอาจจะก้าวร้าวรุนแรง ปัสสาวะราด ไม่สนใจตนเอง


ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์
1. อายุ ยิ่งอายุมากยิ่งมีโอกาสเป็นมากดังกล่าว พบว่าร้อยละ 25 ของผู้ป่วยอายุ 85ปี เป็นโรคนี้




2. โรคความดันโลหิตสูงเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูงทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความจำ การรักษาความดันจะทำให้ความจำดีขึ้น
3.  กรรมพันธุ์ ถ้ามีบุคคลในครอบครัวป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ โอกาสที่จะเป็นก็มากขึ้น เรื่องพันธุกรรมนี้มีความก้าวหน้าขึ้นมาก เช่น ทราบว่าความผิดปกติของยีน (gene) ที่สร้าง amyloid precursor protein จะทำให้ได้โปรตีนที่ผิดปกติ ก่อให้เกิดตะกอนที่เรียกว่า amyloid plaques ในเนื้อสมอง และผู้ที่มี gene บนโครโมโซมที่ 19 ชนิด Apolipoprotein E4 จะมีโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้มากกว่าคนปกติ นอกจากนี้ ยังพบโปรตีนที่ผิดปกติอื่นๆ เช่น Tau protein ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดกลุ่มใยประสาทที่พันกัน (Neurofibrillary tangles) ที่พบเป็นลักษณะจำเพาะของพยาธิสภาพของโรคอัลไซเมอร์

ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ 
1. อัลไซเมอร์เป็นโรค ไม่ใช่ภาวะสมองเสื่อมตามธรรมชาติ หรือตามอายุที่มากขึ้น
2. สาเหตุยังไม่ทราบชัด แต่น่าจะมีส่วนจากพันธุกรรม อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ดังนั้น สามารถเกิดได้กับทุกคน
3. ขณะนี้ ยังไม่สามารถป้องกัน และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
4. การดูแล ความเห็นอกเห็นใจ และความเข้าใจ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วย
5. หากมีญาติที่เริ่มมีอาการหลงลืม ควรพบแพทย์ระบบประสาท อาจเป็นสาเหตุอื่นที่รักษาหายขาดได้
6. โรคนี้มักเกิดในผู้สูงอายุ ดังนั้น ผู้ที่รู้สึกว่าหลงลืมบ่อยโดยที่อายุไม่มาก (20-50 ปี) มักเกิดจากสาเหตุอื่น ส่วนมากเกิดจากการพักผ่อนไม่พอ เครียด ไม่มีสมาธิ ควรแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยปรึกษาแพทย์ เพราะมักเป็นสาเหตุที่รักษาให้หายขาดได้
7. ยังไม่มีการวินิจฉัยที่แน่นอนการวินิจฉัยจะอาศัยหลัก 3 ประการ
    7.1 มีอาการสมองเสื่อม อาการจะเริ่มจากความจำเสื่อม การเรียนรู้เสียไป
    7.2 อาการของโรคจะดำเนินต่อเนื่องไม่หาย
    7.3 ต้องแยกภาวะหรือโรคอื่นที่ทำให้เกิดอาการสมองเสื่อม



น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้


ผลิตภัณฑ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้


ปริมาณและราคา กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,260 บาท
อย. เลขที่ 12-1-13353-1-0083


สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่   http://ricebransaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

     คุณ สายบัว  บุญหมื่น  โทร. 088 415 3926
                ID Line : bua300908

            อีเมล์ : sboonmuen@gmail.com

ความดันโลหิตสูง ไตรกลีเซอไรค์ การปฎิบัติตัวเมื่อไตรกลีเซอไรด์สูง และน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)

การปฎิบัติตัว เมื่อไตรกลีเซอไรด์สูง
           ไตรกลีเซอไรด์เป็นสารประกอบที่มีกรดไขมัน 3 โมเลกุล ที่ถูกทำให้เป็นเกลือเอสเตอร์ ที่เรียกว่า กลีเซอรอล และสังเคราะห์มาจากคาร์โบไฮเดรตและเก็บไว้ในเซลล์ไขมัน เมื่อเซลล์ไขมันถูกย่อยจะปล่อยกรดไขมันออกมาสู่กระแสเลือด ไตรกลีเซอไรด์ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้โดยตัวมันเอง แม้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดจะมีระดับปกติ แต่ถ้าไตรกลีเซอไรด์สูงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานชนิดที่2 โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หากระดับไตรกลีเซอไรด์สูงมากจะเพิ่มความเสียงของโรคตับอ่อนอักเสบซึ่งถ้าเป็นรุนแรงอาจจะทำให้ตายได้




          หากคุณมีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงคุณควรจะเปลี่ยนวิถีชีวิตการกินอยู่ให้ดีขึ้น เช่น ลดละเลิกอาหารบางอย่างร่วมกับการออกกำลังกาย

          เมื่อเรากินอาหารเข้าไปมากกว่าที่ร่างกายจะใช้ได้หมด อาหารนั้นจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไตรกลีเซอไรด์แล้วถูกเก็บไว้ในเซลล์ไขมัน ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงมีผลเสียต่อสุขภาพ คนที่มีความเสียงต่อไตรกลีเซอไรด์สูง ได้แก่
         1. คนอ้วน ความอ้วนสามารถทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงได้




         2. ดื่มแอลกอฮอล์ สารตัวนี้ทำให้ตับผลิตไตรกลีเซอไรด์มากขึ้น และลดการกำจัดไขมันจากเลือด ทำให้ระดับไขมันในเลือดสูงในคนดื่มเหล้าเป็นนิจศีล
         3. กินอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะของหวานที่มีน้ำตาลมาก น้ำตาลส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไตรกลีเซอไรด์
         4. อายุมาก คนที่อายุมากขึ้นจะมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นด้วย


         5. ยาบางตัวทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์เพิ่มสูงขึ้น เช่น ยาขับปัสสาวะ ไธอาไซด์ (thiazide diuretics) การให้ฮอร์โมนรักษาโรค ยาคุมกำเนิดบางตัวทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
         6. พันธุกรรม คนที่มีญาติที่มีโรคหัวใจ มีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง มีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคนั้นด้วยเนื่องจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมาในสายเลือด
         7. จากโรคบางชนิดทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงได้ ได้แก่ เบาหวานชนิดที่ 2 ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย โรคตับ และโรคไต




          เราจะรู้ว่าระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงได้จากการเจาะเลือดตรวจหลังจาก อดอาหารหลังเที่ยงคืนมาแล้ว ส่วนมากเจาะหาร่วมกับไขมันตัวอื่น  คือ คอเลสเตอรอล 3 ตัว (total cholesterol, HDL, LDL) รายงานที่ว่าระดับไตรกลีเซอไรด์สูงหรือไม่สูงหมายความว่า คุณมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ขาดเลือดสูงหรือไม่สูงด้วย


          1. ความเสี่ยงสูงมาก ระดับ 500 (หรือมากกว่า) มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
          2. ความเสี่ยงสูง 200-499 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
          3. ความเสี่ยงค่อนข้างสูง 150-199 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
          4. ความเสี่ยงปกติ 149 (หรือน้อยกว่า) มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (ระดับต่ำกว่า 100 ดีที่สุด)



        อันตรายจากโรคไตรกลีเซอไรด์สูงในเลือดทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว หากเกิดที่หัวใจทำให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ถ้าเกิดที่สมองทำให้เป็นอัมพาต หรือ ทำให้เกิดอาการร่วม คือ ปวดท้อง ตับโต ม้ามโต และทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ ปวดข้อ แหล่งอาหารที่ทำให้ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ได้แก่ อาหารทุกชนิดที่มีปริมาณไขมันสูง โดยเฉพาะ ไขมันสัตว์ น้ำตาล อาหารรสหวานจัด ขนมหวานทุกชนิด เนื่องจากร่างกายสามารถนำไปสร้างเป็นไตรกลีเซอไรด์ คนอายุ 30 ปีขึ้นไปไม่ควรมีค่า ไตรกลีเซอไรด์ เกิน 200 mg/dl

         การลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
         ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงสามารถทำให้ลดลงได้ด้วยการควบคุมอาหาร คือ ลดการกินไขมัน น้ำตาล และแอลกอฮอล์ การลดการกินของหวาน เช่น คุกกี้ น้ำอัดลม ในบางคนสามารถทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลงได้เป็นอย่างมาก การลดน้ำหนักและออกกำลังกายวันละ 30 นาทีก็สามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้
การกินอาหารประเภทปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 มาก เช่น ปลาทูนา เทราท์ ซาลมอน แฮริง แทนการกินเนื้ออย่างอื่น สามารถทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลงได้ นักวิจัยค้นพบว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 จากน้ำมันปลามีฤทธิ์ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลตัวดี (HDL) ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดและอัมพาต อัมพฤกษ์ได้




         การปรับเปลี่ยนอาหารและการออกกำลังกายดังกล่าว ไม่ทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ของคุณลดลงก็ควรจะพึ่งยาจากแพทย์ เช่น ยาประเภท fibrates, niacin หรือ statins มีผลต่อการลดไตรกลีเซอไรด์ แต่การกินยาอย่างนี้นาน ๆ ก็เป็นภาระมากจึงควรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า
 
   
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้


ผลิตภัณฑ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้


ปริมาณและราคา กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,260 บาท
อย. เลขที่ 12-1-13353-1-0083

สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่   http://ricebransaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

     คุณ สายบัว  บุญหมื่น  โทร. 088 415 3926
            ID Line : bua300908

              อีเมล์:  sboonmuen@gmail.com

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความดันโลหิตสูง คุณค่าและประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)

คุณค่าของน้ำมันรำข้าว ใน น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)
       คุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) คือ
   1.วิตามินอี กลุ่มโทโครีฟอลและกลุ่มโทโคไตรอีนอล จะช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยลดระดังไขมันในเลือด เป็นประโยชน์ต่อผู้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด และลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน




   2.โอรีซานอล สารธรรมชาติที่พบในน้ำมันรำข้าวเท่าน้้น มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า และยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL-C)ในเลือด ลดการสังเคาระห์คอเลสเตอรอลในตับ ร่วมทั้งลดอาการวูบวาบในสตรีัวัยทอง
   3.ไฟโตสเอรอล ช่่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี โดยที่ไม่ลดคอเลสเตอรอลที่ดี และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกและช่วยทำลายเซลล์มะเร็งเต้านม แถมยังป้องกันการเกิดโรค มะร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย
   4.มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวช่วยลดการตีบและอุดตันในหลอดเลือด และเพิ่มหรือคงระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDl-C) ให้แก่ร่างกาย


    5.มีกรดไขมันจำเป็น คือ กรดไลโนเลอิค และกรด ไลโนเลนิค เป็นกรดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้
   

 น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้



ผลิตภัณฑ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ปริมาณและราคา 1 กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,260 บาท


อย. เลขที่ 12-1-13353-1-0083


ดูข้อมูลที่   http://ricebransaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

         คุณ สายบัว  บุญหมื่น   โทร. 088 415 3926

                ID Line : bua300908

                 อีเมล์ : sboonmuen@gmail.com

ความดันโลหิตสูง MIR คุณประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว พลัส และน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวและจมูกข้าว (Rice Bran and Germ Oil Plus)

คุณประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว พลัส (Rice Bran and Germ Oil Plus)

     1. มีสาร Gamma-Orzanol ช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ทำให้อวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ สมอง ตับอ่อน และอื่นๆ มีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น และที่เสื่อมสภาพก็กลับฟื้นตัวและทำงานได้อีกครั้งหนึ่ง ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ, โรคตับ, โรคไต,โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคความจำเสื่อม และ มีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลมะเร็ง




     2. ช่วยลดระดับของ แอล ดี แอล (LDL) คอเลสเตอรอล ซึ่งก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย




     3. ช่วยเพิ่มระดับของ เอช ดี แอล (HDL) คอเลสเตอรอล ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย




     4. ช่วยลดระดับไขมันไตรกรีเซอไรด์ (Triglyceride) ในเส้นเลือด
     5. ลดไขมันที่สะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกายทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ไม่อ้วน
     6. มีผลให้ความดันโลหิตลดลงและช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือดยับยั้งโรคเบาหวานได้ผลดี




     7. มีกรดไขมันไลโนเลนิค (Linolenic acid) หรือโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันภาวะเสื่อมของสมอง อันเป็นสาเหตุของโรคความจำเสื่อม โรค อัลไซเมอร์ โรคอัมพฤต




     8. มีกรดไขมันไลโนเลอิค (Linoleic acid) หรือโอเมก้า 6 ช่วยให้ผิวหนังสดใสมีน้ำมีนวล และช่วยระบบสืบพันธุ์ให้ทำงานเป็นปกติ ทำให้ประจำเดือนมาปกติ
     9. ช่วยบำบัดอาการผิดปกติของชาย-หญิง วัยเจริญพันธุ์ (ให้ผลดีในการรักษาผู้มีบุตรยาก) และสตรีวัยทอง




   10. มีวิตามินอีในรูปของโทโคเฟอรอล (Tocopherol) และโทโคไทรอีนอล (Tocotrienol) ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ สำหรับโรคภูมิแพ้จะบำบัดได้ผลดีมาก
   11. มีสารเซราไมด์ (Ceramide) ช่วยบำรุงผิวพรรณให้นุ่มนวลอ่อนเยาว์ ลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น ด่างดำ ฝ้าและกระ ค่อยๆจางลง




   12. ลดภาวะท้องผูก ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่
   13. มีสารเมลาโทนีน (Melatonin) ช่วยให้นอนหลับสบาย ช่วยลดอาการเครียด
   14. สารอาหารต่าง ๆ ได้แก่
         14.1 มีวิตามินเอ ( บำรุงสายตา ), บีรวม ( บำรุงเส้นประสาทฝอยต่างๆ –รักษาปากเปื่อย ปากนกกระจอก ร้อนใน), เบต้าแคโรทีน ( บำรุงสายตาและสมอง ) – ประโยชน์โดยภาพรวม ก็คือ ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น




         14.2 สารไฟโตสเตอรอล ช่วยอย่างมากในเรื่องการลดคอเลสเตอรอลและไตรกรีเซอไรด์ ,ลดอาการอักเสบ,ลดอาการบวม และช่วยสลายลิ่มเลือด ช่วยได้มากในผู้ที่ไขข้ออักเสบ เก๊าท์




         14.3 มีแคลเซี่ยม ( บำรุงกระดูก ) , เหล็ก ( บำรุงเลือด ) , เซเลเนียม ( บำรุงสมอง ), สังกะสี (ป้องกันมะเร็ง ) , แมงกานีส และโครเมียม
         14.4 มีโปรตีน ( เป็นโปรตีนจากพืช เพราะข้าว คือ พืชนั่นเอง )
     

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
       

ผลิตภัณฑ์ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวพลัส (Ricebran and Germ Oil Plus)  กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้



ปริมาณและราคา 1 กล่องบรรจุ 60 แคปซูล ราคา 1,260 บาท

สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่   http://ricebransaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
                คุณ สายบัว  บุญหมื่น   โทร.088 415 3926
  
                  ID Line : bua300908

                    อีเมล์:  sboonmuen@gmail.com